เที่ยวเมืองกาญจน์ พลานพาไม่อยากกลับ
By npp world - มกราคม 23, 2562
"สวัสดีค่ะทุกคน คนชอบเที่ยววันนี้ จะพาทุกคนไปเที่ยว ไปเช็คอินกันที่ แคว้นโบราณ กาญจนบุรี อิน ไทยแลนด์จ้าาาา"
สำหรับใครที่มีแพลนอยากไปเที่ยวเมืองกาญจน์แบบ one day trip แต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหนดี วันนี้คนชอบเที่ยวขอช่วยทุกคนแพลน สถานที่เที่ยว ที่ชิม ที่ช็อป ที่เช็คอินเด็ดๆ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
เริ่มกันที่มากราบสักการะพระคู่บ้านคู่เมืองกันที่วัดถ้ำเสือ วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี สิ่งที่สะดุดสายตาของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมวัด เพื่อกราบนมัสการพระธาตุ ก็คือ ความใหญ่โตกว้างขวางของวัด และพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรีเมื่อเดินทางมาถึงชั้นบนสุดของวัดเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวในมุมสูงได้อย่างสวยงาม พร้อมกับสายลมเย็นที่พัดผ่าน หากมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนมองไปด้านล่างเห็นเป็นทุ่งนาเขียวขจีสดชื่น นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท องค์พระเจดีย์เป็นสีอิฐทั้งองค์แบ่งเป็นชั้นต่างๆ หลายชั้น แต่ละชั้นประดิษฐาน พระพุทธรูป มากมาย จนถึงชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย
มาต่อกันที่ ช่องเขาขาด ทางเดินตัดผ่านภูเขาขนาดใหญ่ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปยังเมืองไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสุดโหดอย่างทางรถไฟสายมรณะเนื่องจากการก่อสร้างในครั้งนั้นมีภูเขาขวางอยู่หลายจุดจึงต้องขุดให้เป็นช่องเพื่อที่รถไฟสามารถวิ่งผ่านไปได้ขณะที่ฉายา "ช่องไฟนรก" ได้มาจากการขุดเจาะภูเขาหินขนาดใหญ่ด้วยอุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยและสองมือในเวลากลางคืนของเหล่าเชลยศึกเมื่อแสงคบเพลิงสะท้อนไปที่ตัวคนก็จะปรากฎเห็นเป็นเงาวูบวาบ ดูทุกข์ทรมานราวกับไฟที่อยู่ในนรกนั่นเอง โดยบรรยากาศระหว่างทางส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเงียบสงบประดับประดาด้วยธงชาติและดอกป๊อปปี้ เพื่อระลึกถึงผู้ที่ได้จากไปให้เราได้ตระหนักถึงความเลวร้ายจากสงคราม
และสถานที่ที่พลาดไม่ได้หรือเรียกได้ว่า ถ้าไปเมืองกาญจน์แล้วไม่ได้ไปสถานที่นี้ถือว่าไปไม่ถึงเมืองกาญจน์จริง สถานที่นี้ก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขามอำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะสร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง เมื่อปีพ.ศ. 2489จนสามารถใช้งานได้ดังเดิม ปัจจุบัน มีการยกย่องให้สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญจนเรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของกาญจนบุรี
ไปมาก็หลายที่แล้ว แวะหาอะไรกินก่อนจะเที่ยวต่อซะหน่อย คนชอบเที่ยวขอแนะนำร้านอาหาร ครัวชุกโดน
ร้านครัวชุกโดน อ่านว่า ชุก-กะ-โดน เป็นร้านอาหารริมแม่น้ำบรรยากาศดี ลมพัดเย็นสบาย ภายในร้านมีโซนด้านในกับโซนที่ติดริมน้ำที่ตั้งร้านอยู่ตรงสี่แยกชุกโดน ตัวเมืองกาญจน์ ถือเป็นร้านที่ดังและถูกแนะนำกันมากที่สุด เพราะนอกจากเมนูอาหารที่หลากหลายและรสชาติอร่อยแล้ว ราคาก็ยังเป็นมิตรอีกด้วย
และสถานที่สุดท้ายนั้น ไปกาญจน์ทั้งที่ จะไม่มีรูปอวดชาวโซเชี่ยลซะหน่อยก็เห็นว่าจะไม่ได้ ละตอนนี้เทรนด์ชุดไทยก็มาแรงมากกก ก.ไก่ล้านตัว ดังนั้นเราจึงจะไปถ่ายรูปกันที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 เป็นเมืองโบราณ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 60 ไร่ จำลองวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ในสมัยอดีต ในรัชกาลที่ 5 หลังการประกาศเลิกทาส หากใครที่ได้เข้ามาก็จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวสยามบริเ วณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยมีอัตราค่าบริการ
ราคาเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 1 วัน ราคา 150 บาท
ราคาเข้าชมสำหรับเด็ก* 1 วัน ราคา 75 บาท
ราคาเข้าชมรวมอาหารเย็นและโชว์สำหรับผู้ใหญ่** 550 บาท
ราคาเข้าชมรวมอาหารเย็นและโชว์สำหรับเด็ก 350 บาท
*เด็กสูง ต่ำกว่า 80 ซม. เข้าฟรี / สูงระหว่าง 80-120 ซม.- ราคาเด็ก / สูงเกิน 120 ซม. – ราคาผู้ใหญ่
*เด็กสูง ต่ำกว่า 80 ซม. เข้าฟรี / สูงระหว่าง 80-120 ซม.- ราคาเด็ก / สูงเกิน 120 ซม. – ราคาผู้ใหญ่
ราคาเช่าชุดไทย : 200 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 100 บาทสำหรับเด็กเจ้าค่ะ (*มีล็อกเกอร์ไว้ให้เก็บของส่วนตัวก่อนเข้าเยี่ยมชมในเมือง *ราคาเช่าชุดสำหรับผู้ใหญ่ ช่วงเย็นระหว่าง 16.30 – 21.00 น. ลดเหลือ 150 บาท)
เป็นไงกันบ้างกับแพลนเที่ยวเมืองกาญจน์ของแอด ถูกใจกันไหมเอ่ยยย ยังไงก็อย่าลืมหาเวลาไปเที่ยวเมืองกาญจน์กันด้วยนะจ๊ะ
0 ความคิดเห็น